รถ EV เสียค่าไฟเท่าไหร่ เทรนด์ของรถ EV เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ โดยในเมืองไทยก็ถือว่ามาแรงพอสมควรเลยทีเดียว หลังจากที่มีสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 หนัก ๆ คนไทยหลายคนก็เริ่มหันมาหารถ EV พลังงานไฟฟ้าที่นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งจากการเติมพลังงานเชื้อเพลิง หรือการซ่อมบำรุงในระยะยาวก็ดี รวมถึงยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ในปัจจุบันได้มีการสนับสนุนจากรัฐบาลทำให้มีการปรับลดราคาของรถ EV ให้สามารถจับต้องได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แค่มีงบเจ็ดแสนก็สามารถหาซื้อรถ EV รุ่นดี ๆ มาใช้งานได้แล้ว
ถ้าหากคุณเป็นคนที่กำลังมองหาซื้อรถ EV อยู่แล้ว อาจจะต้องเตรียมตัวหลายอย่างทีเดียวอย่างน้อย ๆ คือการเตรียมระบบไฟฟ้าสำหรับการชาร์จไฟฟ้าได้ด้วย และจะเสียค่าไฟเท่าไหร่ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกัน
รถ EV คืออะไร
ก่อนจะเข้าสู่เรื่องของค่าไฟฟ้าสำหรับการชาร์จเป็นพลังของรถ EV แล้วนั้น อาจจะต้องมารู้จักกับ รถ EV ก่อนว่าคืออะไร ซึ่งมันก็คือ รถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแทนการใช้งานของเครื่องยนต์ ที่ทำให้กลไกการทำงานลดลง ไม่ต้องหมั่นดูแลเครื่องยนต์ และไม่มีไอเสีย ควันดำ จากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 ประเภทแต่ถ้าเป็นแบบที่สามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ได้นั้นจะมีเพียง 2 ประเภทเท่านั้น
- Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV)
- Battery Electric Vehicle (BEV)
การเตรียมตัวก่อนการติดตั้งระบบชาร์จรถ EV
รถ EV เสียค่าไฟเท่าไหร่ ถ้าหากซื้อรถ EV และต้องการมีระบบชาร์จไฟฟ้าในบ้านจะต้องเตรียมตัวเป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นระบบไฟฟ้าภายในบ้านอาจจะมีปัญหาได้ โดยเริ่มแรกนั้น ขนาดมิเตอร์ไฟฟ้า แนะนำให้เปลี่ยนขนาดมิเตอร์เป็น 30(100) และต่อมาคือ เปลี่ยนสายเมน และลูกเซอร์กิต (MCB) โดยขนาดมิเตอร์ ขนาดสายเมน และขนาดลูกเซอร์กิต (MCB) ต้องสอดคล้องกัน ถ้าหากไม่มีช่องว่างสำรองให้เหลือติดตั้งCircuit Breaker อีก 1 ช่อง ควรเพิ่มตู้ควบคุมไฟฟ้า (MDB) เครื่องตัดไฟฟ้าอัตโนมัติที่จะตัดวงจรไฟฟ้าก็สำคัญมากเช่นกัน สุดท้ายเต้ารับจะเป็นชนิดสามรู และมีสายต่อหลังดินด้วย
ค่าไฟต่อการชาร์จรถ EV เต็ม 1 รอบใช้งาน
รถยนต์ไฟฟ้าชาร์จสูงสุดที่ 7.4 kW แบตเตอรี่จุได้ 60 kW หรือระยะทางขับขี่ประมาณ 350 กิโลเมตร พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือเวลา 1 ชม. เก็บพลังงานไฟฟ้าได้ 7.4 kW โดยถ้าต้องจุให้เต็ม 60 kW ต้องใช้เวลาถึง 7-8 ชั่วโมง
สมมุติว่าไฟฟ้า 1 หน่วย = 1 kW สมมุติที่ 4 บาท/หน่วย
– ชาร์จไฟ 1 ชม คิดค่าไฟฟ้า = 7.4 x 4 x 1 = 29.6 บาท
– ชาร์จไฟ 2 ชม คิดค่าไฟฟ้า = 7.4 x 4 x 2 = 59.2 บาท
– ชาร์จไฟ 8 ชม คิดค่าไฟฟ้า = 7.4 x 4 x 8 = 236.8 บาท
สรุปคือ ถ้าหากได้มีการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มจะเสียเงินประมาณ 236.8 บาท ขับรถได้ประมาณ 350 กิโลเมตร ตกแค่เพียงกิโลเมตรละ 1.4 บาทเท่านั้น
เครดิตภาพจาก
เครดิต ไฮโลไทย , ไฮโลไทยได้เงินจริง , เกมไฮโลไทยเว็บตรง